How to ดูแลผิวช่วงตั้งครรภ์ ให้คนท้องยังเป๊ะปัง หน้าไม่พัง หลังคลอด
สำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ขอให้ตัวเองสวยและดูดีตลอดในทุกช่วงเวลา แม้กระทั่งช่วงมีเบบี้อยู่ในครรภ์อยู่ก็ตาม แล้วยิ่งในยุคนี้ การถ่ายรูปตอนตั้งครรภ์เป็นที่นิยมสำหรับพ่อแม่มือใหม่ทุกคน แต่เราจะสวยยังไง ที่จะไม่เกิดผลข้างเคียงกับลูกน้อย เพราะปกติถ้าเราจะต้องพึ่งฟิวเลอร์ โบท๊อกซ์หรือยิงเลเซอร์ดูแลผิวในทุกๆเดือน ทุกอย่างที่เคยทำต้องงดหมด จึงทำให้มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวของคุณแม่ๆ ทั้งหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ฉันยังใช้ได้ไหม? กลัวมีส่วนผสมวิตามินเอ เลยไม่ใช้อะไรเลยดีกว่า ทรีตเมนต์ก็ไม่กล้าทำ และอีกหลายอย่างที่สร้างความกังวลใจ คุณแม่ๆควรจะทราบว่าในช่วงตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดจากระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อ ที่ผลิตฮอรโมนนั่นเอง โดยต่อมไร้ท่อนี้จะทำงานควบคู่ไปกับระบบประสาท และจะถูกส่งไปตามกระแสเลือดโดยมุ่งตรงไปยัง อวัยวะเป้าหมาย (เด็กน้อยในครรภ์) จึงทำให้มีผลต่ออารมณ์ด้วย สาเหตุนี้คุณแม่หลายคนมีจิตใจที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ
ก่อนจะคิดไปไกลว่านี้ ทำใจร่มๆก่อนดีกว่าไหมคะ อ่านบทความนี้จบ แล้วคุณจะรู้ด้วยตัวเองว่า จะดูแลตัวเองยังไงให้สวยตั้งแต่ ศีรษะจรดปลายเท้าในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ที่นอกเหนือจากการดูแลเรื่องอาหารการกิน เพราะต่อให้กินยังไงก็ไม่ถึงผิวอยู่ดี จึงมีความจำเป็นที่คุณแม่จะต้องดูแลทั้งผิวหน้าและผิวกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะอย่าลืมว่าการดูแลผิวเท่ากับการดูแลสุขภาพ เรามาเริ่มต้นการดูแลทีละส่วนกันค่ะ
การดูแลผิวหน้าของคุณแม่ตั้งครรภ์
ช่วงตั้งครรภ์เป็นธรรมดาค่ะ ที่ผิวหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน บางคนอาจจะพบปัญหาผิวแห้งลอก บางคนผิวหมองคล้ำขึ้นโดยเฉพาะบริเวณลำคอ หรือบางคนอาจจะกลายเป็นคนผิวมันและเป็นสิว จากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
อยากบอกคุณแม่ๆ ว่า ช่วงมีน้องน้อยในครรภ์เช่นนี้ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบครบทุกขั้นตอนได้เหมือนเดิม แต่ขอให้เน้นเรื่องความชุ่มชื่นเป็นหลัก
เพราะผิวหน้ามีเส้นปลายประสาทที่รับฮอร์โมนเอสโทรเจน (ฮอร์โมนที่ให้ความชุ่มชื่น) รวมกันอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด แต่เมื่อตั้งครรภ์ ฮอร์โมนตัวนี้จะถูกส่งไปที่ทารกในครรภ์ทั้งหมด
ผิวคุณจะเริ่มบางและแห้งลงเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นช่วงตั้งท้องควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย ที่เน้นช่วยในการกักเก็บน้ำ เสริมความแข็งแกร่งและปกป้องผิว
และที่สำคัญ คุณยังใช้ครีมกันแดดได้ปกตินะคะ และควรใช้อย่างยิ่งด้วยค่ะ
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเพิ่มขั้นตอนการสครับผิวและมาส์กหน้า ซึ่งสครับควรใช้แบบที่ไม่มีเม็ดบีด จะได้ไม่เกิดอาการระคายเคืองจากการขัดผิว เพราะเป็นช่วงที่ผิวไวต่อการสัมผัส
แนะนำให้คุณแม่เลือกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนผสมของเอนไซม์จากมะละกอ ทาที่ผิวหน้าไล่ลงมาถึงลำคอ เพื่อลดความหมองคล้ำ
และตามด้วยการมาส์กหน้า โดยใช้มาส์กชีทหรือ Sleep Mask แบบครีมทาทิ้งไว้ทั้งคืนได้เลยค่ะ
สำหรับผิวที่แห้งมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้ซีรั่มและครีมบำรุงผิวหน้าที่มีสารสกัดจากพืชตระกูลถั่ว น้ำมันแอพริคอต น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส น้ำมันเมล็ดโบราจ และเชียบัตเตอร์
สำหรับผิวรอบดวงตา ห้าม!!! เอาครีมบำรุงผิวหน้าไปใช้กับรอบดวงตาเป็นอันขาด เพราะรอบดวงตาเป็นจุดที่บอบบางสุดบนใบหน้า ครีมบำรุงรอบดวงตาได้รับการออกแบบเฉพาะโดยจะมีโมเลกุลที่เล็กมากเป็นพิเศษ
แนะนำให้มองหาที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ชนิดต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย
สำหรับผิวบริเวณลำคอและเนินอก จุดนี้สำคัญสำหรับคุณแม่มากๆๆ เพราะในบางท่านจะเกิดขี้ไคลบนผิวจนทำให้ขาดความมั่นใจ ผิวบริเวณนี้เป็นชั้นผิวที่หนา เวลาที่คุณแม่สครับตัวให้ขัดส่วนนี้ด้วย
และใช้ครีมบำรุงสำหรับลำคอโดยเฉพาะ เลือกที่มีส่วนผสมของต้นคิเจเลีย (Kigelia Africana Extract) ทาขึ้นจากเนินอกไปแนวคาง เพื่อเพิ่มความกระชับ ลดความหย่อนคล้อย
เรื่องผิวหน้า รอบดวงตาและลำคอ ถือได้ว่าเป็นงานละเอียดที่สาวๆ ควรดูแลต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ผิวถูกแย่งสารอาหารเพื่อไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ การใช้ครีมบำรุงจำเป็นมากๆ เพราะเป็นอาหารที่ผิวได้รับโดยตรงทันที ไม่ต้องรอจากการทาน
ในส่วนของการทำทรีตเมนต์ผิวหน้า ควรทำหลัง 4 เดือนไปแล้ว ซึ่งคุณแม่สามารถนวดหน้าได้ปกติเดือนละ 1-2 ครั้ง การนวดหน้าจะทำให้คุณแม่ผ่อนคลาย ไปพร้อมๆ กับการดูแลกล้ามเนื้อผิวหน้าให้กระชับ ส่งผลต่อการกักเก็บน้ำในผิวให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
การดูแลผิวกายของคุณแม่ตั้งครรภ์
เคยได้ยินมั้ยคะ ที่คุณย่าคุณยายเราเคยสอนว่า ห้ามขัดผิวระหว่างตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้ผิวแตก เรื่องนี้มีส่วนจริงถ้าคุณขัดผิวอย่างเดียวและไม่มีการบำรุงให้สารอาหารหรือให้น้ำกับผิวเลย
จริงๆ แล้วการขัดผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ในอีกมุมที่ผู้เขียนเล่าเรียนมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณของอเมริกา การขัดผิวสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายของคุณแม่สร้างเซลล์ผิวใหม่
เพิ่มระบบการไหลเวียนทั้งเลือดและน้ำเหลือง เป็นการขจัดสารพิษออกจากร่างกายในแบบธรรมชาติที่สุด ซึ่งยังคงแนะนำให้ทำนะคะ
แต่เพราะผิวกายเราก็ไม่ต่างจากผิวหน้า ที่ในช่วงตั้งครรภ์ความชุ่มชื่นจะถูกดึงออกจากผิวทั้งใบหน้าและลำตัว ดังนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือการทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื่นทั้งช่วงเช้าและกลางคืนอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
และเข้าสปาเพื่อขัดผิวควบคู่ไปกับการนวดอโรม่าผ่อนคลายเบาๆ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะนอกจากจะช่วยลดผิวแตกลายได้แล้ว คุณแม่ยังได้รู้สึกสบายผ่อนคลายอีกด้วย
การดูแลหนังศีรษะและเส้นผมของคุณแม่ตั้งครรภ์
ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ๆ จะมีผมที่ดกหนาเป็นพิเศษ ซึ่งเกิดจากการทำงานของฮอร์โมนอีกเช่นกัน
ในช่วงนี้การทำสปาหนังศีรษะเส้นผม จะยิ่งช่วยรักษาหนังศีรษะและเส้นผมของคุณแม่ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมรับกับสภาวะหลังคลอดในช่วง 4 เดือนแรกที่เส้นผมอาจจะมีการหลุดร่วง
เพราะหากเราดูแลหนังศีรษะให้แข็งแรงตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอดเส้นผมที่หลุดร่วงจากสภาวะการปรับเปลี่ยนฮอร์โมน จะสามารถงอกขึ้นใหม่ได้อย่างแข็งแรงและเงางาม
นอกจากนี้การนวดศีรษะและคอบ่าไหล่ ยังจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรหาเวลาอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เข้ารับบริการสปาหนังศีรษะและเส้นผมกันนะคะ
ความสุขของคุณแม่ ย่อมส่งผลโดยตรงกับความสุขของลูกน้อยในครรภ์ และการที่คุณแม่ได้เห็นตัวเองในกระจกว่า เรายังคงความสดใส อ่อนเยาว์ สวยงามอยู่นั้น ก็ย่อมทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับความสุขและเติบโตอย่างแข็งแรงด้วยเช่นกัน
Love Skin Baby Is In ทรีตเมนต์เพื่อผิวหน้านุ่ม เนียนสวย ออกแบบเฉพาะเพื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Munique Club